9 เช็กลิสต์สำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนเริ่มถ่ายทำด้วยโดรน

―― การถ่ายภาพทางอากาศที่สำเร็จ ไม่ได้ตัดสินที่ “วันจริง” แต่ตัดสินที่ “การออกแบบ” ――

การถ่ายภาพทางอากาศด้วยโดรน ได้กลายเป็นเทคนิคที่ขาดไม่ได้สำหรับการประชาสัมพันธ์องค์กร การแนะนำอสังหาริมทรัพย์ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์จริง มักพบปัญหาไม่น้อย เช่น “ภาพสวยแต่ความรู้สึกที่สื่อออกมานั้นอ่อน” หรือ “จัดองค์ประกอบภาพไม่ลงตัว ทำให้มีฉากที่ใช้งานได้น้อย”

ที่ Eiizo เราตระหนักว่า มีองค์ประกอบร่วมกันสำหรับการ “ถ่ายภาพทางอากาศที่ประสบความสำเร็จ” ผ่านประสบการณ์การถ่ายทำกว่า 100 ครั้ง องค์ประกอบนั้นไม่ใช่ “ทักษะการบังคับ” ในวันถ่ายทำ แต่เป็นการออกแบบ (Planning) ที่ทำในขั้นตอนก่อนหน้า แม้แต่นักบินที่มีประสบการณ์มากเพียงใด ก็ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ หากการเตรียมการไม่สมบูรณ์

บทความนี้จะอธิบาย 9 จุดตรวจสอบที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการถ่ายทำ สำหรับผู้รับผิดชอบองค์กรหรือผู้รับผิดชอบด้านการตลาดที่กำลังจะว่าจ้างการถ่ายภาพโดรนเป็นครั้งแรก โดยอ้างอิงจากประสบการณ์จริงในสถานที่ถ่ายทำ

・กุญแจสู่ความสำเร็จของการถ่ายทำอยู่ที่“การวางแผนก่อนถ่ายจริง”
・9จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนเริ่มถ่ายทำด้วยโดรน
・ทำความเข้าใจกฎหมาย ใบอนุญาต และประกันภัยอย่างถูกต้อง
・หลีกเลี่ยงความเสี่ยงเมื่อเกิดฝนตกหรือปัญหาอุปกรณ์
・ออกแบบภาพให้โดดเด่นด้วยแสง สภาพอากาศ และมุมมอง
・จัดการข้อมูลและทำงานเป็นทีมเพื่อความปลอดภัยในการถ่ายทำ
目次

จัดการข้อมูลและทำงานเป็นทีมเพื่อความปลอดภัยในการถ่ายทำ

จุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพโดรน คือการกำหนดให้ชัดเจนว่า “ต้องการสื่ออะไร ถึงใคร และด้วยความรู้สึกแบบไหน” หากเริ่มต้นถ่ายทำโดยที่แกนหลักนี้ยังคลุมเครือ เจตนาของช็อตและองค์ประกอบภาพจะเบลอ ทำให้ยากต่อการสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวในการตัดต่อ ตัวอย่างเช่น แม้จะเป็นการถ่ายอาคารเดียวกัน——แต่ลักษณะการนำเสนอจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์

– การประชาสัมพันธ์อสังหาริมทรัพย์: ความรู้สึกหรูหรา ทิวทัศน์ และเสน่ห์ของทำเล. การใช้ช็อตยกขึ้นช้าๆ หรือช็อตมุมสูงเพื่อแสดงความรู้สึกพรีเมียม
– โรงงาน/ศูนย์โลจิสติกส์: ความน่าเชื่อถือ ขนาด และความแม่นยำ. การใช้ช็อตองค์ประกอบแบบสมมาตรหรือช็อตที่ใช้ประโยชน์จากเส้นทางการเคลื่อนที่เพื่อแสดงความเป็นระเบียบ
– การท่องเที่ยว/โรงแรม: ประสบการณ์ ความโล่งกว้าง และความอบอุ่น. การนำแสงยามเช้า/ยามเย็น หรือการเคลื่อนไหวของผู้คนเข้ามาใช้เพื่อสร้างความรู้สึกสมจริง

การจัดระเบียบ “ความรู้สึกที่ต้องการนำเสนอ” เช่นนี้ จะทำให้การออกแบบช็อตถ่ายทำ ช่วงเวลา และเส้นทางการบินทั้งหมดมีความชัดเจน

เนื่องจากความยาวที่เหมาะสม (ความยาววิดีโอ) องค์ประกอบของช็อต ตลอดจนอัตราส่วนภาพ (แนวตั้ง/แนวนอน) จะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน การแจ้งให้ทราบตั้งแต่แรกเริ่มจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการปรับแก้งานในภายหลังได้อย่างมาก

- จัดระเบียบว่า "จะสื่อสารอะไร" "ถึงใคร" "ด้วยความรู้สึกแบบไหน"
- กำหนดวัตถุประสงค์การถ่ายทำและการใช้งาน (เว็บ/SNS/นิทรรศการ ฯลฯ) เป็นอันดับแรก
- การออกแบบความรู้สึก = การออกแบบองค์ประกอบภาพ. วิดีโอที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนจะใช้งานได้ดีในการตัดต่อ

ออกแบบสตอรี่บอร์ด (โครงสร้างเรื่อง) ล่วงหน้า

วิดีโอโดรนไม่สามารถสมบูรณ์ได้ด้วยเพียง “องค์ประกอบภาพ” เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชม การออกแบบ “กระแสเรื่อง = Story” จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมช็อตที่สวยงามเพียงใด หากความเชื่อมโยงอ่อนแอ ก็จะไม่เกิดความต่อเนื่องในวิดีโอทั้งหมด การเตรียมสตอรี่บอร์ด (โครงสร้างเรื่อง) ไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้สามารถบันทึก “ฟุตเทจที่ใช้ได้จริง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในเวลาถ่ายทำที่จำกัด

แนวคิดเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน: วิดีโอที่ใช้โดรนจะสร้างความสมดุลได้ง่ายขึ้นหากพิจารณาจากโครงสร้าง 3 ส่วนต่อไปนี้
– ขั้นตอน: อินโทร (Intro). เนื้อหา: แนะนำสถานที่หรืออาคารทั้งหมด. จุดสำคัญของการถ่ายทำ: ใช้ช็อตกว้างจากระดับความสูงเพื่อสร้างความรู้สึกถึงขนาด
– ขั้นตอน: เมน (Main). เนื้อหา: แสดงการเคลื่อนไหวในสถานที่ หรือการไหลของผู้คน. จุดสำคัญของการถ่ายทำ: เข้าใกล้ตัวแบบเพื่อสร้างความรู้สึกสมจริง การติดตาม (Tracking) และการบินวน (Orbit) ก็มีประโยชน์
– ขั้นตอน: โคลสซิ่ง (Closing). เนื้อหา: ช็อตปิดท้ายเพื่อสร้างความประทับใจในแบรนด์. จุดสำคัญของการถ่ายทำ: เลือกองค์ประกอบภาพที่ “ทิ้งความประทับใจ” เช่น โลโก้, ด้านหน้า, ภาพรวมทั้งหมด

ตัวอย่างเช่น หากเป็นวิดีโอประชาสัมพันธ์องค์กร การไหลของเรื่องที่ว่า “อินโทรนำเสนอโลกทัศน์ → เมนแสดงกิจกรรมทางธุรกิจและการเคลื่อนไหวของผู้คน → โคลสซิ่งสร้างความประทับใจในความน่าเชื่อถือ” ถือเป็นรูปแบบมาตรฐาน

นอกจากนี้ ในการถ่ายทำ ควรกำหนดรายการช็อต (Shot List) และจัดระเบียบวัตถุประสงค์ของแต่ละช็อต, ช่วงเวลาที่วางแผนจะใช้ (เงื่อนไขของแสง), ลำดับการถ่ายทำ/เส้นทางการบิน ไว้ล่วงหน้า จะทำให้การตัดสินใจในสถานที่ถ่ายทำราบรื่นขึ้นอย่างมาก

- วิดีโอโดรนก็ต้องการ "กระแสของเรื่อง" เช่นกัน
- จัดระเบียบโครงสร้างและวัตถุประสงค์ของช็อตก่อนการถ่ายทำ
- จัดทำ Shot List และวางแผนช่วงเวลา/เส้นทางบินด้วย

ชี้แจง “ความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายและสัญญา” กรณีสภาพอากาศเลวร้าย/ปัญหา

ในการถ่ายทำโดรน มีความเสี่ยงที่การถ่ายทำจะไม่สามารถเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนดเนื่องจากสภาพอากาศหรือปัญหาด้านอุปกรณ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการยกเลิก ค่าแรงสำหรับวันสำรอง และค่าธรรมเนียมการยื่นขออนุญาตใหม่ เมื่อเกิดความเสี่ยงเหล่านี้

รายการค่าใช้จ่ายที่ควรชี้แจงล่วงหน้า

– การยกเลิก/เลื่อนกำหนดเนื่องจากสภาพอากาศ: กำหนดเกณฑ์การตัดสินใจ (เช่น ยกเลิกเมื่อความเร็วลมเกิน 5 ม./วินาที) และสัดส่วนการชำระเงินให้พันธมิตรผู้ผลิต (เช่น รับผิดชอบค่าแรง 50% ในวันนั้น)
– การถ่ายซ้ำเนื่องจากปัญหาอุปกรณ์: ตกลงว่าพันธมิตรผู้ผลิตจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในกรณีที่ต้องถ่ายซ้ำเนื่องจากความรับผิดชอบของพันธมิตรผู้ผลิต เช่น อุปกรณ์ขัดข้องหรือข้อมูลเสียหาย
– การยกเลิกเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาต: กำหนดเงื่อนไขการยกเลิกสัญญาและการชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (เช่น ชำระเฉพาะค่าสำรวจสถานที่) ในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตบินจากหน่วยงานราชการหรือกองทัพ
- ระบุเกณฑ์การตัดสินใจและภาระค่าใช้จ่ายในการยกเลิก/เลื่อนกำหนดไว้ในสัญญา
- ยืนยันว่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการถ่ายซ้ำ ซึ่งเกิดจากความรับผิดชอบของฝ่ายผลิต (เช่น ปัญหาอุปกรณ์)
- กำหนดเงื่อนไขค่าธรรมเนียมการยกเลิกในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาต

ตรวจสอบ “ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม” และ “กฎหมาย” ของพื้นที่ถ่ายทำอย่างละเอียด

โดรนเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความสำคัญกับ “กฎหมายและความปลอดภัย” เป็นอันดับแรกเหนือกว่าเทคนิคการถ่ายทำ ก่อนที่จะถ่ายทำวิดีโอที่ยอดเยี่ยมที่สุด ขั้นแรกต้องตรวจสอบก่อนว่า “สถานที่ใดที่สามารถถ่ายทำได้อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย” หากละเลยการตรวจสอบนี้ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงสูงสุดคือการยกเลิกการถ่ายทำหรือการถูกลงโทษตามกฎหมาย

การตรวจสอบ “การลงทะเบียนและการอนุญาต” ที่จำเป็น (NBTC, CAAT)

การบินโดรนในประเทศไทย จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนและอนุญาตจากหน่วยงานหลักๆ ดังต่อไปนี้ (โดยเฉพาะสำหรับการถ่ายทำเชิงพาณิชย์):

– การลงทะเบียนกับ NBTC (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงฯ): การลงทะเบียนเพื่อใช้งานคลื่นความถี่ของอุปกรณ์โดรน
– การอนุญาตจาก CAAT (สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย): การอนุญาตบินตามพื้นที่ วัตถุประสงค์ และน้ำหนักของโดรน
– ข้อจำกัดความสูง: โดยพื้นฐานแล้ว การบินเกิน 90 เมตร (ประมาณ 300 ฟุต) จากพื้นดิน จำเป็นต้องได้รับอนุญาต

การอนุญาตจาก CAAT เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องตรวจสอบล่วงหน้าว่าพื้นที่ถ่ายทำไม่รวมอยู่ในน่านฟ้าจำกัด (เช่น สนามบิน พระราชวัง โรงพยาบาล)

ข้อจำกัดเฉพาะของพื้นที่ และการแจ้งตำรวจ/ทหาร

นอกเหนือจากกฎหมายแล้ว ยังต้องตรวจสอบกฎระเบียบเฉพาะจากหน่วยงานท้องถิ่น ผู้ดูแลสถานที่ และเจ้าของที่ดิน ในพื้นที่ถ่ายทำด้วย โดยเฉพาะในเขตเมือง เช่น กรุงเทพฯ สถานที่จัดงาน หรือบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน มักจำเป็นต้องแจ้ง/ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

และต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง หากบินรอบฐานทัพอากาศหรือหน่วยงานทหาร เพราะจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากกองทัพอากาศหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากการอนุญาตของ CAAT หากบินเหนือน่านฟ้าของที่ดินส่วนบุคคล ต้องมีกระบวนการอธิบายอย่างละเอียดและได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดิน

ข้อควรระวังในการปฏิบัติงานจริง: ขั้นตอนการยื่นคำขออนุญาตอาจใช้เวลาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนหรือมากกว่า และสำหรับการบินเชิงพาณิชย์ การเริ่มต้นดำเนินการโดยมีเวลาเพียงพอ ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุดสู่ความสำเร็จ

- ดำเนินการการลงทะเบียน/อนุญาตจาก NBTC และ CAAT เป็นอันดับแรก
- ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินและยืนยันข้อจำกัดความสูงที่ 90 เมตร (ประมาณ 300 ฟุต)
- การบินในกรุงเทพฯ/พื้นที่สำคัญ ต้องไม่ลืมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร
- ยื่นคำขออนุญาตโดยเผื่อเวลา นับย้อนหลังตั้งแต่วันถ่ายทำ

คาดการณ์ “ลม แสง และสภาพอากาศ” ในวันถ่ายทำ และกำหนดวันสำรอง

การบินโดรนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศมากที่สุด ต้องคาดการณ์ “เงื่อนไขของแสง” ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสวยงามของภาพ และ “เงื่อนไขของลม” ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยไว้ล่วงหน้า และนำมาวางแผน

การออกแบบแสง (ตำแหน่งดวงอาทิตย์)

เงื่อนไขของแสงเป็นตัวกำหนดคุณภาพของวิดีโอ แม้จะเป็นตัวแบบเดียวกัน แต่ความรู้สึกที่ได้จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงตามตำแหน่งของดวงอาทิตย์

– ช่วงเวลาโกลเดนอาวร์: แสงโทนอุ่นและนุ่มนวล เงายาว สร้างอารมณ์, พรีเมียม
– ช่วงกลางวัน (ตามแสง): แสงแรง เงาสั้น มีคอนทราสต์สูง สร้างความรู้สึกชัดเจน, กระฉับกระเฉง
– แสงด้านข้าง/ย้อนแสง: เน้นเงาและมิติของวัตถุ สร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ และใช้ประโยชน์จากการสะท้อนของผิวน้ำ/กระจก

ควรใช้แอปพลิเคชันอย่าง Sun Surveyor เพื่อตรวจสอบเส้นทางของดวงอาทิตย์ (ทิศทางและความสูง) ในวันและสถานที่ถ่ายทำล่วงหน้า เพื่อออกแบบ “ทิศทางของแสง” อย่างตั้งใจ

มาตรฐานความปลอดภัยของความเร็วลม/ทัศนวิสัย และความสำคัญของวันสำรอง

การบินโดรนที่ความเร็วลม 5 เมตร/วินาทีขึ้นไป ถือเป็นอันตรายโดยทั่วไป และจำเป็นต้องตัดสินใจยกเลิก/เลื่อนการถ่ายทำโดยให้ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ สภาวะฝนฟ้าคะนองฉับพลัน (สกอลล์) ซึ่งเป็นเรื่องปกติในไทย ก็เพิ่มความเสี่ยง ดังนั้น การกำหนดวันสำรองไว้เสมอ และการแบ่งปันเกณฑ์การตัดสินใจกับพันธมิตรผู้ผลิต (Production Partner) ในกรณีที่สภาพอากาศเลวร้าย ถือเป็นแนวทางแบบมืออาชีพ

- ตรวจสอบเส้นทางดวงอาทิตย์ด้วยแอปพลิเคชัน และออกแบบแสงที่ต้องการ
- ใช้แสงด้านข้างหรือย้อนแสงอย่างมีสติ เพื่อเน้นมิติและความน่าประทับใจ
- ต้องสำรองวันถ่ายทำไว้เสมอ และแบ่งปันเกณฑ์การตัดสินใจในกรณีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน (เช่น สกอลล์) กับพันธมิตรผู้ผลิต
- ให้ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยใช้ความเร็วลม 5 เมตร/วินาทีเป็นเกณฑ์

ตรวจสอบ “รายการเช็คลิสต์ตัวเครื่อง” และ “การจัดการแบตเตอรี่” อย่างละเอียด

ก่อนพูดถึงทักษะการควบคุม มีอุบัติเหตุไม่น้อยที่เกิดจากปัญหาของอุปกรณ์ เช่น โดรนสูญหาย หรือทำความเสียหายต่อบุคคลและทรัพย์สิน การตรวจสอบตัวเครื่อง (Pre-flight Check) ก่อนถ่ายทำ และการจัดการแบตเตอรี่ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับเวลาบิน เป็นหัวใจสำคัญของการบินอย่างปลอดภัย

รายการตรวจสอบที่จำเป็นก่อนการถ่ายทำ

ควรตรวจสอบรายการต่อไปนี้อย่างละเอียด ทั้งก่อนเดินทางไปยังสถานที่ และก่อนเครื่องขึ้น

– ตัวเครื่อง: ใบพัดมีรอยบิ่นหรือรอยแตกหรือไม่? ตัวล็อกแขนเครื่องหลวมหรือไม่?
– แบตเตอรี่: ชาร์จเต็มแล้วหรือไม่? มีอาการบวมหรือเสียหายหรือไม่? ควรเตรียมแบตเตอรี่สำรองให้เพียงพอสำหรับทั้งตัวเครื่องและรีโมตควบคุม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบตเตอรี่และตัวเครื่องมีความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนสูงเกิน (Overheat) ภายใต้อุณหภูมิสูง เมื่อบินกลางแดดจ้า ควรมีมาตรการระบายความร้อน เช่น วางเครื่องไว้ในที่ร่มขณะรอเสมอ, ใช้พัดลมขนาดเล็ก (Cooling Fan) เป่าระบายความร้อนทั้งตัวเครื่องและแบตเตอรี่, เก็บแบตเตอรี่ในกระเป๋านิรภัย (Safe Bag) และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพื่อควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงขึ้น *****การใช้เจลทำความเย็นสัมผัสกับแบตเตอรี่โดยตรงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด เพราะอาจทำให้เกิดการลัดวงจรและไฟไหม้จากไอน้ำ (Condensation)

การเตรียมอุปกรณ์สำรอง

ในสถานที่ทำงานของมืออาชีพ การเตรียมอุปกรณ์สำรอง (ตัวเครื่อง เลนส์ ใบพัด) ไว้เป็นกฎเหล็ก เพื่อรับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเครื่องหรือเลนส์ การทำเช่นนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่ตารางงานจะล่าช้าหรือการถ่ายทำต้องหยุดชะงักเนื่องจากปัญหา และช่วยให้ส่งมอบงานได้ตรงเวลา

- ให้ความสำคัญสูงสุดกับการตรวจสอบความเสียหายของใบพัดและแบตเตอรี่
- จัดการในที่ร่มเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกิน, ใช้พัดลมขนาดเล็กช่วยระบายความร้อน และหลีกเลี่ยงการทำความเย็นโดยตรง
- เตรียมอุปกรณ์สำรองไว้เพื่อรับมือกับปัญหาอุปกรณ์

จัดทำ “คู่มือรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน” สำหรับวันถ่ายทำ

ไม่ว่าจะเตรียมการอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงใด ก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด (Incident) ขึ้นในสถานที่ถ่ายทำได้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างสงบและรวดเร็ว จำเป็นต้องมีการจัดทำคู่มือรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้าและแบ่งปันในทีม

สถานการณ์ฉุกเฉินที่ควรคาดการณ์และการดำเนินการ

ควรทำขั้นตอนการรับมือให้ชัดเจนสำหรับกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น โดรนสูญหาย แบตเตอรี่ต่ำ การล้ำเข้าพื้นที่ของบุคคลภายนอก และสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

(ตัวอย่างเฉพาะ)

  • หากโดรนสูญหาย ต้องตรวจสอบ RTH และกำหนดจุดลงจอดฉุกเฉิน หากแบตเตอรี่ต่ำ ต้องกำหนดขั้นตอนการกลับฐานและลงจอดทันที
  • สำหรับบุคคลภายนอก/ผู้สัญจร ให้แจ้งเตือนและตัดสินใจเปลี่ยนไปสู่การลอยตัวอยู่กับที่ (Hovering) และในกรณีสภาพอากาศเปลี่ยน ให้เฝ้าระวังด้วยเครื่องวัดลมและกำหนดเกณฑ์การยกเลิกที่ชัดเจน

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ (การชนกับบุคคลหรือทรัพย์สิน) ให้กำหนดขั้นตอนการตรวจสอบความเสียหาย, การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ, การติดต่อตำรวจ/ดับเพลิง, และการแจ้งบริษัทประกัน

การตรวจสอบประกันและข้อมูลการติดต่อ

การถ่ายทำด้วยโดรนจำเป็นต้องมีการทำประกันความรับผิดต่อบุคคลที่สาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ควรระบุขอบเขตการคุ้มครองและข้อมูลการติดต่อของบริษัทประกันไว้ในคู่มือให้ชัดเจน นอกจากการชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินและบุคคลแล้ว การพิจารณาทำประกันสำหรับตัวเครื่องโดรน (ประกันตัวเครื่อง) ก็ช่วยเพิ่มความต่อเนื่องทางธุรกิจได้

กำหนดจุด RTH (กลับฐานอัตโนมัติ) และสถานที่ลงจอดฉุกเฉินให้ชัดเจน
จัดทำขั้นตอนการติดต่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุ (ตำรวจ/บริษัทประกัน) ในคู่มือ
ยืนยันการทำประกันความรับผิดต่อบุคคลที่สามและขอบเขตการคุ้มครองอีกครั้ง

จัดทำแผน “การจัดการข้อมูลและการสำรองข้อมูล” หลังการถ่ายทำ

แม้จะถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์แบบ แต่หากข้อมูลสูญหาย ความพยายามทั้งหมดก็จะไร้ผล การกำหนดขั้นตอนการทำงานของข้อมูลตั้งแต่สถานที่ถ่ายทำจนถึงสำนักงาน และการยึดมั่นในหลักการที่ว่า“ต้องเก็บข้อมูลไว้ในหลายที่” เป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพ

หลักการนำเข้าและสำรองข้อมูล

  1. หลังสิ้นสุดการถ่ายทำ ให้รีบนำเข้าข้อมูลทั้งหมดจากสื่อบันทึก (SD Card, ที่เก็บข้อมูลภายใน) ไปยัง PC หรือที่เก็บข้อมูลหลัก (Master Storage)
  2. หลังจากนำเข้าเสร็จสิ้น ควรสร้างไฟล์สำรองไปยังสื่อบันทึกที่แตกต่างจาก Master Data โดยเร็วที่สุด (เก็บในอย่างน้อย 2 แห่ง)

กฎ 3-2-1 ในการสำรองข้อมูล

ในสถานที่ทำงานของมืออาชีพ แนะนำให้ใช้ “กฎ 3-2-1” เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลสูงสุด กฎ 3-2-1 คือหลักการ “3 สำเนา (ต้นฉบับ + สำรอง 2 ชุด)” “2 สื่อบันทึกที่แตกต่างกัน” และ “1 สำเนาถูกเก็บไว้ภายนอกสถานที่ (Off-site/ต่างสถานที่ทางภูมิศาสตร์)”

การจัดการและการลบสื่อบันทึก

จนกว่าการนำเข้าและสำรองข้อมูลจะเสร็จสิ้น และได้รับการยืนยันความสมบูรณ์ของข้อมูลแล้ว ห้ามทำการลบหรือฟอร์แมตสื่อบันทึก (SD Card) โดยเด็ดขาด แม้จะยืนยันความสมบูรณ์ของข้อมูลแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับกรณีไม่คาดฝัน ควรเก็บสื่อบันทึกไว้อย่างปลอดภัยและไม่นำกลับมาใช้ซ้ำทันที จนกว่าจะส่งมอบงานให้ลูกค้าเสร็จสมบูรณ์

คัดลอกข้อมูลไปยัง PC หรือที่เก็บข้อมูลทันทีที่กลับมาจากสถานที่ถ่ายทำ
ยึดมั่นในหลักการ "เก็บข้อมูลไว้ในหลายที่" อย่างเคร่งครัด
ห้ามทำการลบสื่อบันทึกจนกว่าจะยืนยันความสมบูรณ์ของข้อมูลแล้ว

กำหนด “การแบ่งบทบาทและการประสานงาน” ภายในทีมถ่ายทำให้ชัดเจน

การถ่ายทำด้วยโดรน โดยพื้นฐานแล้วควรกระทำเป็นทีม จากมุมมองของการจัดการความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การไม่ทำงานทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยลำพัง แต่การกำหนดบทบาทหน้าที่ภายในทีมให้ชัดเจน และประสานงานอย่างเคร่งครัด ถือเป็นสิ่งสำคัญ

โครงสร้างพื้นฐานของทีมและการประสานงาน

  1. นักบิน (Pilot): รับผิดชอบการบินและการควบคุมกล้อง. ประสานงานกับผู้ช่วยผ่านวิทยุสื่อสารเสมอ เพื่อรับข้อมูลจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง
  2. ผู้ช่วย (Safety Observer): เฝ้าระวังพื้นที่บิน, แจ้งเตือนผู้สัญจร, ตรวจสอบความเร็วลม. รายงานสิ่งกีดขวางหรือการเปลี่ยนแปลงของลมในจุดอับสายตาต่อนักบินทันที
  3. ผู้กำกับ/ลูกค้า: ยืนยันองค์ประกอบภาพ/เจตนาของวิดีโอ, ตัดสินใจช็อตที่ “OK”. ยืนยันองค์ประกอบภาพกับนักบิน และแจ้งให้ทราบทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ถ่ายทำ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประสานงานระหว่างนักบินและผู้ช่วย (Safety Observer) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุ

การที่ผู้ช่วยสามารถสื่อสารข้อมูลในจุดอับสายตาไปยังนักบินได้อย่างแม่นยำ คือกุญแจสำคัญสู่การบินที่ปลอดภัย สำหรับการถ่ายทำเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ มักมีการแนะนำอย่างยิ่งให้ประสานงานอย่างต่อเนื่องโดยใช้วิทยุสื่อสาร เพื่อรับประกันความปลอดภัยในระดับสูง

- กำหนดบทบาทของนักบินและผู้ช่วยให้ชัดเจน เพื่อสร้างระบบเฝ้าระวังความปลอดภัย
- ประสานงานกันอย่างต่อเนื่องระหว่างการบิน โดยใช้วิทยุสื่อสารหรืออุปกรณ์อื่น
- ลูกค้าและผู้กำกับควรสื่อสารภาพที่ต้องการอย่างเป็นรูปธรรม และมีการสื่อสารที่ใกล้ชิด

コメント

この記事へのコメントはありません。

関連記事

【คู่มือฉบับสมบูรณ์】5 เคล็ดลับในการถ่ายทำโดรนให้ประสบความสำเร็จ

ขั้นตอนการลงทะเบียนโดรนออนไลน์ที่ไทยแบบละเอียดทุกขั้นตอน ทั้งของใหม่และมือสอง

วิธีเลือกบริษัทรับถ่ายภาพด้วยโดรน|เช็คลิสต์ที่ต้องรู้เพื่อไม่ให้พลาด (สำหรับผู้รับผิดชอบการตลาด)

PAGE TOP